กรณีปรับครม. ไม่ปิดกั้นใคร! ทำไม่ได้ก็ปรับ

วง ครม.ประยุทธ์ 4 นัดแรกคึกคัก นายกฯแจงสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้เข้าสถานการณ์ ขอร้องอย่าไปแบ่งแยกกัน ลั่นใครทำงานไม่ได้ปรับใหม่ไม่เห็นยาก พอใจภาพรวมนั่งปรับเองคนเดียว ไม่เคยคิดเขี่ยทิ้ง “บิ๊กป้อม” สั่งลดบทบาทรองนายกฯให้ไปดูงานพื้นๆ อ้างรับภาระมากไป โหร คมช.ชี้เปรี้ยงมีปรับ ครม.อีกแน่ “ประวิตร” มีเสียวจากปัญหาสุขภาพ โยนหินขยับโรดแม็ปเลือกตั้ง “บิ๊กตู่” ถก คสช.รับมือสงครามไซเบอร์ เย้ยพวกป่วนไร้เครดิตไม่มีทางเจาะสำเร็จ กฤษฎีกาปัด ก.ม.ล้วงตับของจริงอยู่ที่ พ.ร.บ.ไซเบอร์ ตร.ขึงขังสั่ง บก.ปอท. ล่ามือแฮก “ปึ้ง” ตอกอย่าใช้พวกมากละเมิดสิทธิ์ประชาชน กรธ.แก้โทษยุบพรรคเป็นตัดเงิน สปท.ฉลุยดันขึ้นค่าตอบแทนนักการเมือง อ้างนายกฯสิงคโปร์ค่าตอบแทนอื้อซ่า

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำรัฐมนตรีใหม่ทั้ง 12 คน เข้าเฝ้าฯถวาย สัตย์ปฏิญาณตน โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพระบรมราโชวาท ให้มีขันติ มีความอดทน หาข้อมูลที่ถูกต้อง และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ สมกับสถานการณ์และเหตุผลนั้น

นายกฯแจงปรับ ครม. “บิ๊กตู่ 4”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งถือเป็นนัดแรกของ 12 รัฐมนตรีใหม่ที่เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง และเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ถวายสัตย์ ปฏิญาณเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม. ว่า ถือเป็นการประชุมครั้งแรกของ ครม.ประยุทธ์ 4 เป็นวาระปกติ สิ่งสำคัญที่ได้แจ้งวันนี้คือความจริงมีทั้งคนเก่าและคนใหม่ มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน ทั้งหมดทำงานมาด้วยกันตลอดเพียงแต่อยู่คนละสถานะกัน วันนี้ปรับเปลี่ยนบ้างตามความเหมาะสม เนื่องจากมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งองคมนตรีจึงปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนใครจะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไปก็ว่ากันไปตามโรดแม็ป ตามกลไกที่มีอยู่

...

ขอร้องอย่าไปแบ่งแยกกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าไปกังวล ทุกอย่าง ทำไปตามบทบาทภาระหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นในบุคลากรไม่ว่าจะเป็นทหาร ข้าราชการพลเรือน ทุกคนต้องบริหารราชการภายในกรอบแห่งความร่วมมือ ไม่ได้ปิดกั้นใคร ขอร้องว่าอย่าไปแบ่งแยก การทำงานถ้ามีหลักการมีกรอบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนจะไม่ยุ่งยาก ปัญหาสำคัญคือการสร้างความเข้าใจ ตนให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีผลสัมฤทธิ์ตอบปัญหาสังคมให้ได้ โดยเฉพาะปัญหาใกล้ตัวความเดือดร้อน การขับเคลื่อนในเชิงยุทธศาสตร์ การหารือวันนี้มีการปรับความรับผิดชอบในการตรวจราชการให้รองนายกรัฐมนตรีดูแลเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ลั่นทำงานไม่ได้ปรับใหม่ไม่ยาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเหตุผลอะไรที่มอบหมายให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่ได้เจาะจงไปดูแลคดีใดเป็นพิเศษ ทุกคดีเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ทั้งหมดอยู่ที่กลไกการทำงาน ตั้งแต่ต้นทางตำรวจ อัยการ ศาล มีเสียงเรียกร้องจากสื่อต่างๆ รวมทั้งโซเชียลมีเดีย ขอทำให้เกิดความชัดเจนได้หรือไม่ เพราะมีหลายคนยังออกมาพูดจาให้เกิดความเสียหาย ถ้าถามถึงเหตุผลที่เลือกนายสุวพันธุ์ให้รับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แล้วทำไม หรือนายสุวพันธุ์ไม่สบาย สุขภาพไม่ดี ตนไว้ใจทุกคน และทุกคนต้องทำหน้าที่ตามกติกา ถ้าทำไม่ได้ก็ว่ากันอีกที ปรับใหม่ไม่เห็นยากเลย ส่วนคนที่จะมาเป็นประธานวิปรัฐบาลแทนก็คือนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาทำหน้าที่แทน

เน้นกระชุ่นเศรษฐกิจไร้การเมือง

เมื่อถามว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้เน้นอะไรเป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตั้งแต่เข้ามาเมื่อปี 2557 รัฐบาลมองไปข้างหน้าตลอด ไม่เคยมองไปข้างหลัง ภาพรวมทางเศรษฐกิจในมุมมองธนาคารโลก ชี้ว่าในปี 2560 ประเทศไทยน่าจะเติบโตร้อยละ 3.2 ความจริงเราน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่านั้น ถ้าไม่มีการต่อต้านทุกอย่างก็ดำเนินการได้ เงินก็เกิดการหมุนเวียน คนก็กล้าเข้ามาลงทุน แต่ถ้ามัวไปต่อต้านสร้างความขัดแย้ง ความเชื่อมั่นระบบเศรษฐกิจจะไม่เกิด จึงเน้นไปว่าการทำงานของรัฐบาลต้องคำนึงถึงระดับรายได้ของคน 3 ระดับ คือ ข้างบน ตรงกลาง และข้างล่างซึ่งได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด บอกไว้เลยว่าไม่ได้ทำงานการเมือง ทำเพราะเห็นใจพวกเขาเหล่านั้นอย่างแท้จริงด้วยใจบริสุทธิ์ ถ้าทำงานเพื่อหวังผลจะไม่ได้อะไร ดังนั้นต้องช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจ การช่วยเหลือถ้าทำแบบหว่านแหไปเรื่อย ก็เหมือนการทิ้งของลงแม่น้ำ

พอใจเพราะปรับเองคนเดียว

เมื่อถามว่าพอใจภาพรวมการปรับ ครม.มากน้อยแค่ไหน และจะมีการปรับในช่วงเวลาที่เหลืออีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ถ้าถามก็ตอบว่าพอใจเพราะเป็นคนปรับเองคนเดียว คงต้องถามกลับว่าแล้ว ทุกคนพอใจหรือไม่ อย่าไปมองที่ตัวบุคคลมากนัก ถ้าทุกคนเชื่อมั่นว่าตนกำลังทำอะไรให้กับประชาชน และประเทศ ก็ขอให้เชื่อมั่นคนของตนด้วย หากมีปัญหาอะไรขอให้บอกมา พร้อมจะรับไปแก้ไขดูแลให้ดีขึ้น วันนี้อย่ามองในแง่การเมืองมากเกินไป ไม่เช่นนั้นทำงานกันไม่ได้ ต้องคอยคิดว่าต้องเลือกคนนั้นคนนี้ อย่าเลือกคน แต่ขอให้เลือกวิธีการ เลือกการบริหารจัดการ เลือกแนวความคิดใหม่ เลือกกฎหมายใหม่ขึ้นมาแล้วทำให้อยู่ในกรอบ โดยรวมประเทศชาติและประชาชนต้องได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา เลือกแต่ตัวบุคคลผลเป็นอย่างไรก็เห็นอยู่เปลี่ยนมากี่คนแล้ว ตนเพิ่งเปลี่ยนมา 3 ครั้ง ที่ผ่านมา 20 ปี เปลี่ยนรัฐมนตรีมากี่คนก็ไม่เรียบร้อย

ไม่แม้แต่จะคิดเขี่ย “บิ๊กป้อม”

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่งว่า สื่อเป็นคนเสนอหรือเปล่าไม่เคยคิด วันนี้ท่านก็ทำงานดีไม่มีข้อบกพร่องตรงไหน ไปหาข้อบกพร่องมาให้ตนถ้าหาไม่ได้อย่ามาพูด ไม่เคยคิดปรับท่านอยู่แล้ว

“ออมสิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าประชุม ครม. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าสักการะท้าวมหาพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า และนำดอกไม้ ธูป เทียน กราบไหว้ศาลพระภูมิ และศาลตายาย เพื่อความเป็นสิริมงคล นายออมสินกล่าวว่า การถูกสลับตำแหน่งไม่ได้รู้สึกหนักใจ อยู่ตรงไหนทำงานได้ทั้งนั้นขอให้ตั้งใจ ส่วนการแบ่งงานหลังการประชุม ครม.คงรู้ว่านายกฯ มอบหมายอะไรให้ทำบ้าง

“พิชิต” ลุยต่อโครงสร้างทางราง

นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ตั้งใจทำงานขับเคลื่อนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการขนส่งทางรางหรือรถไฟ แต่ยังไม่มีการหารือกันในรายละเอียด จะสานต่องานให้เกิดความต่อเนื่องไปพร้อมกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามนายกฯเป็นกังวลเรื่องโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ สั่งการให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัด ส่วนการลงทุนกับต่างประเทศ เช่น รถไฟรางคู่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม มีแผนงานอยู่แล้ว จะพยายามเร่งรัดให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

“สุวพันธุ์” เดินเครื่องงานทันที

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ งานในกระทรวงยุติธรรมมีความสำคัญเพราะเป็นการรักษาและอำนวยความยุติธรรม ผลสัมฤทธิ์ใดที่นายกฯต้องการตนจะเดินตามแนวทางที่ได้รับมอบหมาย นายกฯ ไม่ได้เน้นย้ำภารกิจใดเป็นพิเศษ แต่มอบแนวทางให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ในปี 2560 และเน้นย้ำงานต่อต้านการทุจริต อะไรที่ รมว.ยุติธรรมคนก่อนหน้านี้ได้ทำไว้ และคิดว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้อง จะเดินตามแนวทางต่อ จะเริ่มทำงานนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

“สนธิรัตน์” รอเกลี่ยงานพาณิชย์

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.ยังไม่ได้มอบหมายอะไรให้รับผิดชอบเป็นพิเศษ การแบ่งงานมีความชัดเจนอยู่แล้ว จะหารือกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์หลังจากนี้ และคงต้องเร่งทำงาน จะเข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์วันที่ 21 ธ.ค.นี้ เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือเรื่องเศรษฐกิจ แต่ขอคุยกับ รมว.พาณิชย์ก่อน จะได้รู้ความชัดเจนว่าต้องดูแลงานด้านไหน

“ดอน” รอคุย “วีระศักดิ์” แบ่งงาน

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พูดคุยเรื่องการแบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ 12 คน แต่เป็นที่รู้กันในระดับกระทรวงว่าต้องมาพูดคุยกันก่อน สำหรับนายวีระศักดิ์ ฟู– ตระกูล รมช.ต่างประเทศ ปกติทำงานร่วมกันอยู่แล้วตอนเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ตอนนี้มีอำนาจหน้าที่มากขึ้นสามารถลงนามในเอกสารต่างๆได้

ด้านนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายงานจาก รมว.ต่างประเทศ เมื่อได้รับมอบหมายงานแล้วจึงจะรู้ว่าต้องรับผิดชอบงานส่วนใดบ้าง

ลดบทบาทรองนายกฯดูงานพื้นๆ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ให้แนวทางกับ ครม.ชุดใหม่จากที่ผ่านมาเน้นภารกิจให้รองนายกฯทุกคนดูแลงานด้านต่างๆตามฟังก์ชันและกำกับดูแลแต่ละกระทรวง และยังเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชุดต่างๆ รวมถึงกลุ่มงานตามคลัสเตอร์และกลุ่มจังหวัดนั้น มองว่าเป็นการรับภาระมากเกินไป อยากให้รองนายกฯมาช่วยงานนายกฯในภาพรวมมากกว่า จากนี้เปลี่ยนแนวทางให้รองนายกฯทั้งหมดไม่ต้องลงไปคลุกคลีมากเกินไป แต่จะใช้เจ้ากระทรวงทำหน้าที่บูรณาการติดตามงาน เรียกว่ารัฐมนตรีวงใน ส่วนรองนายกฯทั้งหมดจะทำหน้าที่เพียงกำกับดูแล โดยส่งหน่วยงานกลาง เช่น สำนักงบประมาณ สำนัก งานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) คณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าไปช่วยสนับสนุน ส่วนระดับพื้นที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแม่งาน

รมว.ศธ.กร้าวห้ามรับแป๊ะเจี๊ยะ

ที่กระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ เข้ากราบสักการะพระพุทธรูปประจำกระทรวง ก่อนร่วมประชุมเพื่อมอบนโยบายกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นพ.ธีระเกียรติกล่าวว่า จะไม่ยกเลิกนโยบายที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตน– สุวรรณ องคมนตรีและอดีต รมว.ศึกษาธิการดำเนินมา แต่จะจัดยุทธศาสตร์ใหม่ตามยุทธศาสตร์ชาติ และกระทรวงศึกษาธิการในยุคนี้ต้องเป็นยุคที่โปร่งใสที่สุดเท่าที่มีในประวัติศาสตร์ ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเรียกรับผลประโยชน์ทั้งบนโต๊ะ ใต้โต๊ะ

โหร คมช.ชี้เปรี้ยงมีปรับ ครม.อีก

ด้านนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหร คมช. กล่าวว่า การปรับ ครม.ประยุทธ์ 4 เป็นการปรับตามเวลาหาคนที่เหมาะสม ไม่ใช่ปรับเพราะเกิดความแตกแยกในรัฐบาลหรือ คสช. ข่าวการปรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นเพียงกระแสข่าว ชัดเจนว่า พล.อ.ประวิตรยังต้องทำหน้าที่อีกสักระยะหนึ่ง และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พอถึงเวลานั้นอาจมีปัจจัยหลายสาเหตุ อาจเรื่องสุขภาพ เมื่อหน้าที่ท่านหมดก็จะหมดไป แต่การปรับ ครม.ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย คอยดูอีก 6-7 เดือนจะปรับ ครม.อีกครั้งก่อนการเลือกตั้งแน่ มีปัจจัยหลายสาเหตุรวมกัน ทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง สถานการณ์ในเวลานั้น และการทำงานของรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงว่าเข้าเป้าหรือไม่ ส่วนคนรอบข้างนายกฯที่เข้ามาร่วมงานถือเป็นตัวช่วย ใครที่หมดหน้าที่ก็หมดไป จะมีคนใหม่เข้ามาทดแทน

โยนหินขยับโรดแม็ปเลือกตั้ง

นายวารินทร์กล่าวว่า ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีบารมีเป็นผู้นำ ยังมีหน้าที่ประคับประคองชาติบ้านเมือง เมื่อบ้านเมืองหมดอุปสรรค พล.อ.ประยุทธ์ก็จะเดินออกมาเหมือน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ สำหรับการเลือกตั้งมีแน่ แต่จะขยับบ้างเล็กน้อยตามสถานการณ์ แต่ไม่มาก ส่วนโรดแม็ปยังเดินต่อไปได้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผู้ที่จะได้รับเลือกเข้ามา จะแตกต่างจากในอดีต เมื่อการเปลี่ยนแปลงเรื่องประชาธิปไตยในบ้านเรามีการพัฒนาที่ดีขึ้น แบบเก่าๆเริ่มหดหายไป น่าจะได้คนใหม่ๆ พรรคใหม่ๆ ปรากฏขึ้นมา พรรคต่างๆที่เคยกุมอำนาจอาจไม่ใช่เวลาของเขา

“บิ๊กตู่” ถก คสช.รับมือแฮกเกอร์

ก่อนหน้านี้ ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม คสช. มีสมาชิก คสช.เข้าร่วม อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการ ร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) สมาชิก คสช. ขณะที่ พล.อ. เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช.ไม่ได้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเยือนประเทศกัมพูชา

เมินคำขู่ถล่มเว็บหน่วยงานรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าประชุม พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ถึงการเตรียมรับมือกลุ่มต่อต้าน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประกาศนัดโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานราชการพร้อมกัน ว่า “ไม่ต้องรับมืออะไร มีกฎหมายอยู่แล้ว” และเดินขึ้นตึกบัญชาการไปทันที สำหรับการประชุม คสช.วันนี้มีการหารือถึงมาตรการดูแลประชาชนช่วงปีใหม่ และมาตรการป้องกันการโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานรัฐ

ฟุ้งคนส่วนใหญ่หนุน พ.ร.บ.คอมฯ